

ส่องทิศทางซีรีส์วาย-แซฟฟิคไทย กำลังจะ เป็น Next K-POP ในอีกไม่ช้า
Jun 3
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงาน Bangkok Pride 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ ลานชั้น G, Siam Center คือเวทีเสวนา Bangkok Pride Forum ภายใต้หัวข้อ “ซีรีส์วาย-แซฟฟิก : เล็กพริกขี้หนู เผ็ชเขย่าโลก!” ที่เปิดพื้นที่ให้แลกเปลี่ยนมุมมองประเด็นศักยภาพของซีรีส์ LGBTQ+ ไทย เพื่อสะท้อนภาพรวมศักยภาพของอุตสา หกรรม รวมถึงบทบาทสำคัญของรัฐและสังคมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและภาพลักษณ์วัฒนธรรมของประเทศในเวทีโลก
ในงานได้เชิญผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิในวงการคอนเทนต์ซีรีส์วายและยูริ ได้แก่
คุณวสันต์ หอมแสงประดิษฐ์ (อุปนายกสมาคมส่งเสริมคอนเทนต์วายไทย)
คุณศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล (ผู้บริหารและผู้กำกับซีรีส์วาย บริษัท สตูดิโอ วาบิ ซาบิ จำกัด)
คุณยชญ กรณ์หิรัญ (ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ ฮันเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์)
คุณปราณิสา เตียวพิพิธพร ผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายและชุมชน ผู้แทนจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
พร้อมด้วยนักแสดงจากหลายผลงานชั้นนำ ได้แก่ น้ำ–จุฑามาศ หวังสวัสดิ์ จากซีรีส์ B-Friend เจตนา (ไม่) ลืม, เจนนี่–เจนนิเฟอร์ โจนส์ จาก Lyric เธอคือคนในเพลงรัก, ฟลุ๊ค–ณธัช ศิริพงษ์ธร และ ยูโด–ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์ จาก “Make a Wish ภารกิจนายเทวดา เดอะซีรีส์

ศักยภาพของไทยและบทบาทของรัฐ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สังคมไทยเปิดกว้าง ต่อเรื่องเพศสภาพและความหลากหลายมากขึ้น ทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์เข้าใจตลาด จนสามารถผลิตผลงานคุณภาพออกมาได้ต่อเนื่อง รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้เห็นความสำคัญทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม จึงจัดสรรงบประมาณสนับสนุน โครงการซีรีส์ LGBTQ+ รวม 87 เรื่อง พร้อมทั้งการจัดงานประกาศรางวัล เพื่อยกย่องและกระตุ้นให้ครีเอเตอร์มีพื้นที่แสดงออกอย่างเต็มที่
คุณปราณิสา เน้นย้ำว่า นอกจากการสร้างสรรค์คอนเทนต์แล้ว ภาครัฐยังสนับสนุนการต่อยอดเชิงเศรษฐกิจ ทั้งด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และอาหารไทยที่กลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว LGBTQ+ จากต่างประเทศ อีก ทั้งยังมีการจัดกิจกรรมและแคมเปญร่วมกับสังคม ให้ผู้คนทั่วไปได้มีส่วนร่วมและยอมรับมากขึ้น
จุดแข็งที่เขย่าตลาดโลก
คุณศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล กล่าวว่าประเทศไทยถือเป็น ประเทศแรก ที่นำเสนอซีรีส์วายสู่สื่อกระแสหลัก และ “สานกระแส” มาต่อเนื่องทุกปี จนทำให้คนทั่วโลกยอมรับว่า “ซีรีส์วายไทยคือต้นตำรับ” ความเปิดกว้างของคนไทยส่งเสริมให้ต่างชาติรู้สึกว่า ซีรีส์วายจากไทยเข้าถึงง่ายและไม่รู้สึกติดขัดทางวัฒนธรรม
ย กตัวอย่างซีรีส์ “Love Sick” ซึ่งเป็น Boy Love ออกอากาศทางช่องสาธารณะเรื่องแรก ฉายครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนจนถึงปัจจุบัน ได้กลายเป็นเครื่องยืนยันว่า “ไทยมีศิลปะและวัฒนธรรมที่พร้อมจะสื่อสารเรื่อง LGBTQ+ ออกไปสู่สายตาชาวโลกได้อย่างมีคุณภาพ” แม้จะมีข้อจำกัดจากกรอบศาสนา แต่ผ่านการตีโจทย์อย่างสร้างสรรค์ ซีรีส์วายจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว จนไทยกลายเป็น “Hub ซีรีส์วายที่ใหญ่สุดในโลก”

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้รายได้ไหลทั่วโลก
คุณยชญ กรณ์หิรัญ อธิบายถึงปัจจัยหลักที่ทำให้ซีรีส์วายไทยสร้างรายได้ทั่วโลก มาจาก
ฐานแฟนคลับกว้างไกล: โดยเฉพาะในละตินอเมริกา ซึ่งมีกลุ่มแฟนซีรีส์วายไทยหนาแน่น แฟนคลับเหล่านี้ไม่ได้เพียงดู แต่ยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมออนไลน์ เช่น
- การแชร์คลิป การทำซับไตเติ้ล (Fan Sub) และ Fan Art ช่วยขยายการรับรู้ให้แพร่กระจาย
- เครือข่ายอินเทอร์เน็ตและ OTT Platform: แพลตฟอร์มทั้ง Netflix, VIU, iQIYI, WeTV ฯลฯ เป็น “ตัวกลาง” ที่ส่งซีรีส์ไทยไปสู่ผู้ชมทั่วโลกได้ทันที ผู้ชมเข้าถึงง่ายกว่าการฉายในทีวีตามภูมิภาค
- คุณภาพการผลิต: ทีมเขียนบท–ผู้กำกับ–ฝ่ายถ่ายทำไทยล้วนใส่ใจทุกรายละเอียด องค์ประกอบงานศิลป์, การกำกับภาพ, การสื่อสารอารมณ์ ทำให้ผลงานออกมาติดเทรนด์ในต่างประเทศ
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ บวกกับการดูแลแฟนคลับและกลยุทธ์การตลาด ทำให้ ซีรีส์วายไทยกลายเป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรมที่ทรงพลัง
แนวทางต่อยอดอุตสาหกรรม
นอกจากรายได้จากค่าสตรีมมิ่งและคิดค่าโฆษณาจากแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว คอนเทนต์ซีรีส์วายและยูริยังมีโอกาสต่อยอดธุรกิจในหลายมิติ เช่น
1. การท่องเที่ยว (Set Tour & Cultural Tour)
- จัดทริปพาแฟนคลับไปเยี่ยมชมโลเคชั่นถ่ายทำฉากสำคัญ ทำให้แฟนซีรีส์รู้สึกใกล้ชิด
- งานเชื่อมโยงกับกิจกรรมท้องถิ่น เช่น เทศกาลดนตรี LGBTQ+ หรือแหล่งพักผ่อนที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวเพศทางเลือก
2. ผลิตภัณฑ์ลิขสิทธิ์และพรีเซ็นเตอร์
- สินค้าลิขสิทธิ์จากซีรีส์ (เสื้อยืด, แก้ว, โปสเตอร์ ฯลฯ)
- นักแสดงวายจำนวนหนึ่งกลายเป็น “แบรนด์แอมบาสเดอร์” ให้สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง และบริการต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ
3. ดนตรีและอีเวนต์
- เพลงประกอบซีรีส์ (OST) ที่ฮิตติดหู มีกิจกรรมคอนเสิร์ต รวมถึงไลฟ์แสดงสดเพื่อกระชับสัมพันธ์กับแฟนคลับ
4. Collaborations & Cross-overs
ร่วมมือกับแบรนด์ไลฟ์สไตล์ เช่น คอลเล็กชั่นแฟชั่น หรือกิจกรรมบาร์กลางคืนที่มุ่งเน้นกลุ่ม LGBTQ+
การต่อยอดเหล่านี้ไม่เพียงสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ยังช่วย เชื่อมต่อผู้ชมให้เกิด Community Engagement ที่เข้มแข็งมากขึ้น
Mindset ของผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม
ในส่วนของนักแสดง ทั้งคุณน้ำ, คุณเจนนี่, คุณฟลุ๊ค และคุณยูโด ได้เล่าถึง มุมมองและบทบาท ของตนในฐานะการเป็นส่วนหนึ่งในอุตสาหกรรมซีรีสวายและแซฟฟิคว่า
- การเป็นนักแสดงซีรีส์ต้อง เรียนรู้ทั้งเชิงเทคนิคและอารมณ์ เพื่อให้บทบาทสะท้อนความเป็นจริงของ LGBTQ+ อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การโชว์ความหวานในจอ
- การแสดงออกไม่เพียงเพื่อความบันเทิง แต่ต้องเป็น ตัวแทน (Representation) ที่สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับผู้ชม โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่ได้รับสิทธิหรือพื้นที่แสดงออกอย่างเต็มที่
- พัฒนาเนื้อหาให้สร้างสรรค์และหลากหลาย ไม่จำกัดอยู่แค่รักวัยรุ่น แต่ลองผสมผสานหลายแนว เช่น สืบสวนสอบสวน แอดเวนเจอร์ แฟนตาซี หรือแม้แต่ซอมบี้ เพื่อขยายฐานผู้ชม
- การทำงานต้อง เดินทางไปในทิศทางเดียวกัน ระหว่างผู้กำกับ นักเขียนบท และนักแสดง เพราะ “ตราบใดที่ทุกคนยังมีความรัก ซีรีส์พวกนี้จะไม่มีวันหายไป”

บทบาทซีรีส์ในการขับเคลื่อนความหลากหลายทางเพศ
เมื่อพูดถึง พลังของซีรีส์วายและแซฟฟิค ในการเปลี่ยนทัศนคติทางเพศ คุณศิวัจน์ชี้ว่า “ซีรีส์วายไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่เป็นกระบอกเสียงที่ทำให้คนทั่วไปได้เห็นภาพชีวิตของ LGBTQ+ อย่างใกล้ชิด เมื่อมีผู้ชมจำนวนมากได้รับข้อมูลและความเข้าใจใหม่ๆ พวกเขาย่อมเปิดใจและยอมรับความหลากหลายมากขึ้น”
คุณย ชญเสริมว่า แฟนคลับ (Fans) มีบทบาทสำคัญในการกระจายสารนี้ต่อ ช่วยสร้างกระแสในสื่อโซเชียล และทำให้สังคมทั่วโลกได้ยินเสียงของ LGBTQ+ ผ่านการแฮชแท็ก แชร์คลิป และกิจกรรมร่วมกัน


ภาพอนาคต: 5 ปี และ 10 ปีข้างหน้า
เมื่อถูกถามถึงเทรนด์ซีรีส์วาย–ยูริในอีก 5 และ 10 ปีข้างหน้า คุณยชญกล่าวว่า ยอดความนิยมจะเติบโตต่อเนื่องอย่างก้าวกระโดด และความต้องการ (Demand) จะเพิ่มสูงขึ้น และอาจขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ทั่วโลกมากยิ่งกว่านั้น
โดยมองว่า
“ซีรีส์วายคือ Next K-Pop” ที่จะสร้างกระแสคลื่นพลังไปทั่วโลก
คุณศิวัจน์เสริมว่า หากครีเอเตอร์ไทยยังพัฒนาเนื้อหาให้เทียบเท่ากับละครชาย–หญิง และทดลองผสมผสานหลากหลายเจนร์อย่างต่อเนื่อง ซีรีส์วายไทยจะมี จุดยืนในตลาดโลกชัดเจน และดึงดูดนักลงทุนสตรีมมิ่งเพิ่มมากขึ้น
ในช่วงท้าย คุณศิวัจน์ยังฝากถึงแฟนคลับในประเทศที่ยังมี สถานการณ์ความหลากหลายทางเพศไม่เอื้ออำนวย และให้กำลังใจว่า “ต้องใช้ความอดทน เพราะการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา เหมือนไทยที่ใช้เวลากว่าสิบปีในการปรับเปลี่ยนมุมมอง สิ่งที่เราทำได้คือให้ความรู้ เปิดมุมมอง และรอจนกว่าคนจะยอมรับในสิ่งที่ LGBTQ+ เป็น”

ซีรีส์วาย–แซฟฟิคไทย ได้กลายเป็นพลังสำคัญที่ไม่เพียงแค่ขับเคลื่อนความหลากหลายทางเพศ แต่ยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ผลักดันงานสร้างสรรค์ และยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก การสนับสนุนของรัฐ การไม่หยุดพัฒนาเนื้อหาอย่างสร้างสรรค์ และการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน จะเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ “เล็กพริกขี้หนู” อย่างซีรีส์วายไทยเผ็ชและเขย่าโลกต่อไปอย่างยั่งยืน
“ตราบใดที่ทุกคนยังมีความรัก ซีรีส์พวกนี้ไม่มีวันหายไป”