

Shorts ปัง! ดันยอดด้วย "เพลงฮิตติดกระแส"
Aug 16
ในยุควิดีโอสั้นและการเล่าเรื่องรวดเร็ว “เพลง” ไม่ได้เป็นเพียงแค่เสียงประกอบที่อยู่เบื้องหลังอีกต่อไป แต่กลายเป็น ตัวเร่งแรงขับเคลื่อนคอนเทนต์ ให้ถูกค้นพบ แชร์ต่อ และจำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะบน YouTube Shorts ท ี่ระบบอัลกอริทึมมักจะดันวิดีโอที่ใช้เพลงกำลังมาแรงให้มีโอกาสขึ้นหน้าแนะนำ (For You Feed) ได้มากกว่าเดิม
วันนี้ TubeMojo จะมาเจาะลึกทีละขั้นตอนว่าทำไม Music Trend ถึงสำคัญ, หาได้จากไหน, เลือกยังไงให้ตรงกับเนื้อหา และเทคนิคเพิ่มโอกาสให้คอนเทนต์ของคุณติดกระแส

ทำไมเพลงฮิตถึงสำคัญกับ YouTube
อัลกอริทึมชอบเพลงที่มีการใช้งานซ้ำเยอะ บน YouTube Shorts ถ้าเพลงหนึ่งถูกใช้ซ้ำในหลายคลิป ระบบจะมองว่าเป็น “คอนเทนต์ฮิต” และเชื่อมโยงวิดีโอทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ชมที่ดูคลิปหนึ่งมีโอกาสถูกแนะนำคลิปอื่นที่ใช้เพลงเดียวกัน
ช่วยตั้งโทนและดึงอารมณ์ผู้ชมทันที เพลงสามารถสร้างอารมณ์ได้ภายใน 3–5 วินาทีแรก เช่น เพลงจังหวะเร็วช่วยให้รู้สึกตื่นเต้นสนุกสนาน, เพลงบรรเลงนุ่ม ๆ สร้างความรู้สึกอบอุ่น หรือเพลงจังหวะหนัก ๆ ช่วยเพิ่มดราม่าให้เนื้อเรื่อง
เพิ่มการจดจำและสร้างแบรนด์ส่วนตัว ถ้าคุณใช้เพลงหรือสไตล์ดนตรีแบบเดิมซ้ำในหลายคลิป ผู้ชมอาจเริ่มจดจำเพลงนั้นว่าเป็น “ซิกเนเจอร์” ของช่อง ทำให้มีเอกลักษณ์และความคุ้นเคย
หาเพลงที่กำลังติดเทรนด์ได้จากที่ไหน?

เช็กจาก YouTube Shorts Music Library เข้าไปที่ไลบรารีเพลงของ Shorts แล้วกดดูหมวด “Trending” เพื่อดูเพลงยอดนิยมประจำวันหรือสัปดาห์
ตามจาก TikTok และ Instagram Reels เพลงที่กำลังดังบนแพลตฟอร์มเหล่านี้มักจะตามมาดังบน Shorts ภายใน 1–2 สัปดาห์ ถ้าเห็นเพลงที่ใช้ในชาเลนจ์หรือมีคนเอาไปเต้นเยอะ ให้เตรียมใช้ทันที
สังเกตจาก Creator ในหมวดเดียวกัน ดูว่าครีเอเตอร์ที่ทำคอนเทนต์แนวเดียวกับคุณใช้เพลงอะไรแล้วได้ยอดวิวดี ซึ่งมีข้อดีคือ จะได้เพลงที่ตรงกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว
ใช้ Google Trends หรือเครื่องมือค้นหาเพลง พิมพ์ชื่อเพลงหรือเนื้อบางส่วนเพื่อตรวจว่ามีการค้นหาเพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยเพลงที่อยู่ในซีรีส์ดังหรือภาพยนตร์ที่เพิ่งฉาย มักจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

เลือกเพลงให้เหมาะกับคอนเทนต์ ไม่ใช่แค่เพราะติดเทรนด์
แม้เพลงจะฮิตแค่ไหน การเลือกเพลงผิดอารมณ์ก็อาจทำให้ผู้ ชมสับสนหรือรับชมแล้วรู้สึกคลิปไม่ลื่นไหลได้
คอนเทนต์ตลก/เบาสมอง → ใช้เพลงจังหวะสนุก สดใส หรือมีจังหวะที่เข้ากับมุก
คอนเทนต์ท่องเที่ยว → เพลงบรรเลงโทนบวก ฟีลสบาย ๆ เหมาะกับการเล่าเรื่อง
คอนเทนต์ How-to หรือการสอน → เพลงบีทเร ียบ ๆ ที่ไม่กลบเสียงพูด
คอนเทนต์ดราม่า/สร้างแรงบันดาลใจ → เพลงที่มีการไล่ระดับอารมณ์เพื่อพาเรื่องไปถึงจุดพีค
💡Best Practice ให้เพลงช่วยดันคลิป
Hook ท่อนแรกให้ตรงกับท่อนฮิตของเพลง เริ่มคลิปด้วยภาพ/แอ็กชันที่น่าสนใจในจังหวะเดียวกับท่อนที่ผู้คนจำได้
ตัดต่อให้ซิงค์กับบีท (Beat Matching) การเปลี่ยนภาพหรือซีนให้ตรงกับจังหวะเพลงทำให้ดูเพลินและรู้สึกมืออาชีพ
เลือกใช้ “Viral Moment” บางเพลงมีท่อนที่คนชอบทำชาเลนจ์หรือใช้เป็นมีม ให้เลือกท่อนนั้นแทนการใช้เพลงเต็ม
เพิ่มเอฟเฟกต์หรือเท็กซ์ที่เ คลื่อนไหวตามจังหวะ ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินและจดจำคลิปได้มากขึ้น
ให้เครดิตเพลงครบถ้วน เลือกเพลงจากคลังที่ YouTube อนุญาต และใส่ชื่อศิลปิน/เพลงในคำอธิบาย เพื่อเชื่อมกับระบบแนะนำอัตโนมัติ
แม้การใช้เพลงฮิตจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คลิปของคุณไวรัลได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยหรือเหมาะกับทุกคลิปเสมอไป ก่อนจะเลือกใช้เพลงเทรนด์ ควรพิจารณาเรื่อง ลิขสิทธิ์, ความเหมาะสมกับคอนเทนต์ และระยะเวลาเทรนด์ของเ พลง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและให้คอนเทนต์ของคุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ปัญหาลิขสิทธิ์เพลง หากใช้เพลงที่ไม่มีสิทธิ์ใช้งาน อาจโดนบล็อกหรือปิดเสียงวิดีโอ
เพลงหมดกระแสเร็ว เพลงฮิตบางเพลงอยู่ได้ไม่เกิน 2–3 สัปดาห์ ต้องลงมือเร็ว
อย่าพึ่งเพลงอย่างเดียว แม้เพลงจะช่วยดึงคน แต่เนื้อหาคือปัจจัยหลักในการทำให้คนดูต่อจนจบ
การใช้เพลงที่กำลังเป็นกระแสในการทำคอนเทนต์ ถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยเร่งการมองเห็นที่ทรงพลังบน YouTube โดยเฉพาะ Shorts แต่หัวใจสำคัญคือต้อง จับจังหวะให้เร็ว เลือกเพลงให้ตรงกับคอนเทนต์ และสร้างการเล่าเรื่องที่ซิงค์กับจังหวะเพลง หากทำได้ครบ 3 ข้อนี้ ก็มีโอกาสเห็นคอนเทนต์พุ่งไวรัลได้อย่างแน่นอน





